Tag: อาหาร

ธุรกิจ “บุฟเฟต์” ไปได้ดีเพราะมีสิทธิ์เลือก

เรารู้จักอาหารบุฟเฟต์กันมาสักพักใหญ่ ซึ่งแพร่หลายไทยมาแล้วราว ๆ สิบกว่าปี หมูกระทะหัวละ 69 บาทเป็นจุดเริ่มต้นการทำความรู้จักอาหารบุฟเฟต์ของคนไทย ร้านหมูกระทะบุฟเฟต์ที่เริ่มแพร่หลายไปทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทำให้คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับการกินอาหารบุฟเฟต์ คนไทยชอบกินอาหารบุฟเฟต์จากความรู้สึกว่า ทุกคนไม่ว่าจะมีรายได้ระดับไหน เมื่ออยู่ในร้านบุฟเฟต์ก็จะมีสิทธิ์ในการเลือกเท่า ๆ กัน ความเหลื่อมล้ำในความรวยและจนเป็นปัญหาสังคมอย่างหนึ่งของของคนไทย การเข้าไปใช้บริการร้านอาหารที่ไม่รู้งบประมาณที่แน่นอน ทำให้คนไทยหลายคนรู้สึกกลัวการทานอาหารนอกบ้าน แต่บุฟเฟต์มีข้อกำหนดราคาที่ตายตัว ทำให้ผู้เข้าไปใช้บริการไม่ว่าจะมาจากที่ใด ไม่รู้สึกเขินอายเมื่อถึงเวลาชำระค่าอาหาร เพราะรู้ราคาล่วงหน้าและมีการวางแผนมาแล้ว ทานเท่าไรก็ได้ไม่จำกัด ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม การมีสิทธิ์ตัดสินใจในรายการอาหารของตน ก็เป็นเหตุผลหลัก ๆ ให้คนเลือกทานอาหารบุฟเฟต์มากกว่าอาหารที่เสิร์ฟในจานธรรมดา ถึงแม้ว่าอาหารบางอย่างมีราคาเท่ากัน แต่คนก็มักจะเลือกทานบุฟเฟต์มากกว่า หรืออาหารที่เหมือนกันแต่แบบธรรมดาราคาถูกกว่าบุฟเฟต์ หลายคนก็ยังเลือกทานบุฟเฟต์ การเข้าใจว่าตนเองมีอิสระในการเลือกทานอาหารอะไรก็ได้ในปริมาณเท่าไหร่ก็ได้นั้น เป็นสิ่งที่สนับสนุนในการตัดสินใจเลือกทานอาหารประเภทนี้ เมื่อตระหนักว่าการจ่ายเงินหนึ่งครั้งต่อทางเลือกอาหารหลาย ๆ อย่างนั้น คุ้มค่ากว่าจ่ายเงินหนึ่งครั้งต่ออาหารอย่างเดียว ผู้บริโภคจึงรู้สึกว่าตนมีสิทธิ์เลือกและไม่ถูกควบคุม จึงทำให้ทัศนคติต่ออาหารบุฟเฟต์มักอยู่ในทางบวกมาเสมอ ความจริงแล้วไม่ใช่ผู้บริโภคเป็นฝ่ายควบคุม แต่กลับกันเจ้าของกิจการบุฟเฟต์ต่างหากที่เป็นผู้ควบคุม โดยราคาต่อหัวสำหรับการทานบุฟเฟต์นั้นถูกกำหนดโดยเจ้าของร้าน ธุรกิจอยู่ได้ด้วยกำไรจากผลผลิต ดังนั้นกิจการร้านอาหารบุฟเฟต์ก็ไม่ได้ทำเพื่อการกุศล การคำนวณราคาวัตถุดิบและค่าอาหารต่อลูกค้าหนึ่งคน ถูกคำนวณมาอย่างรอบคอบว่าเท่าไหร่จึงจะไม่ขาดทุน ทั้งหมดจึงไม่ใช่ความใจดีของเจ้าของกิจการที่ให้ลูกค้าทานในปริมาณไม่จำกัด แต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจบุฟเฟต์อยู่ได้ก็คือ ความรู้สึกของลูกค้าที่ว่าตนมีสิทธิ์เลือกแน่ๆเมื่อตัดสินใจทานอาหารบุฟเฟต์

ผู้หญิงยุคใหม่อ้วนง่ายเพราะ “กาแฟเย็น”

จะเห็นว่าในรอบสิบปีที่ผ่านมานี้ มีธุรกิจร้านกาแฟเพิ่มขึ้นในประเทศไทยจำนวนมาก เรียกว่ามีร้านกาแฟให้เข้าไปใช้บริการในทุก ๆ หัวถนน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองเห็นรายได้จากการบริโภคกาแฟเป็นประจำ ซึ่งมีทั้งธุรกิจร้านกาแฟขนาดย่อมของผู้ประกอบการชาวไทย และธุรกิจร้านกาแฟขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการชาวต่างชาติ นี่เป็นสาเหตุของการมีร้านกาแฟเพิ่มขึ้นในประเทศไทย การเพิ่มขึ้นของจำนวนร้านกาแฟนั้น ก็เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่บริโภคกาแฟเป็นกิจวัตรประจำวัน เมื่อคุณเดินเข้าร้านกาแฟจะพบว่าไม่ได้มีแค่กาแฟเท่านั้น ยังมีรายการเครื่องดื่มอีกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ชา โกโก้ หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ แม้กระทั่งขนมหวานต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของน้ำตาลทั้งสิ้น และผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้บริโภคชั้นดีกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะการบริโภคของหวาน เนื่องจากผู้หญิงมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จะควบคุมให้มีไขมันในร่างกายมากกว่า 20 % ซึ่งเฉลี่ยแล้วสูงกว่าผู้ชายราว ๆ 5 % เพื่อให้มีร่างกายพร้อมกับการตั้งครรภ์ ดังนั้นเมื่อใกล้ถึงวันนั้นของเดือน ผู้หญิงจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น จึงทำให้เกิดอาการอยากของหวานมากกว่าวันปกติ ประกอบกับประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การทานเครื่องดื่มหวาน ๆ เย็น ๆ ก็สามารถทำให้ร่างกายเย็นลงได้ ความต้องการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟมองเห็นช่องทางธุรกิจ โดย“กาแฟเย็น” หนึ่งแก้วประกอบด้วย น้ำตาลทราย นมข้นหวาน นมจืด และกาแฟ ซึ่งให้พลังงานต่อหนึ่งแก้วประมาณ 320 แคลอรี่ มีพลังงานเทียบเท่ากับก๋วยเตี๋ยวหมูหนึ่งชาม