Tag: ข่มขืน

คำอวดครวญของชายที่ข่มขืน กระทำชำเลาคนอื่น

ข่าวการข่มขืนซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิสตรี และสิทธิมนุษยชนของคนอื่นอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนเราต้องมาตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมทั่วโลกที่มีคนกลุ่มหนึ่งมองว่าการทำร้ายร่างกายและการพยายามร่วมเพศกับคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายว่าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ในมวลเรื่องราวที่ผู้เคราะห์ร้ายประสบทั้งหมด เรื่องนี้คือเรื่องที่เปราะบางมากที่สุดด้วยความที่ว่าในหลาย ๆ สังคม เมื่อมีเหตุการณ์ที่ผู้เสียหายถูกกระทำทางเพศ จะมีการ Blamming victim หรือการโทษว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเหยื่อ เช่น เมื่อมีคนโดนข่มขืน สังคมจะรุมประนามเหยื่อว่าแต่งตัวไม่มิดชิด หรือเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์อันตราย และไม่ได้แก้ไขต้นตอสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ผู้กระทำความผิดเลย ทำให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายต้องต่อสู้กับคำครหาเยอะมาก กว่าจะสามารถเอาชนะคำกล่าวหาเหล่านั้นและเข้าแจ้งความ ผู้ต้องการที่ลากวัยรุ่นสาวเข้าพุ่งไม้ไปข่มขืนอย่างทารุณราว 2 ชั่วโมงโอดครวญว่าถ้าเขาโดยจับขังคุก เขาจะไม่สามารถมีครอบครัวได้ สำนักงานข่าวรายงานว่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายถูกจับไปราว 2 ชั่วโมงก่อนจะถูกปล่อยออกมาและผู้กระทำผิดยังขูดรีดเงินจากเธออีกด้วย ในภายหลังศาลเองได้รับแจ้งว่าการจู่โจมแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้เคราะห์ร้ายเดินออกมาเพื่อพบเพื่อนของเธอหลังจากที่เลิกงานออกกะที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตผู้ต้องหาเห็นว่าหญิงสาวมีเสน่ห์มากแล้วลอบตามเธอไปที่ลานจอดรถและใช้มือประกบปิดปากเธอ ศาลได้ตัดสินผู้กระทำผิดซึ่งอายุ 25 ปี โดยศาลตัดสินความผิดข้อหาข่มขืนและกระทำชำเลาเหยื่อด้วยความตั้งใจ ตัดสินให้เขาจำคุก 14 ปี และแจ้งต่อว่าเขาจะถูกย้ายกลับไปคุกที่ประเทศบ้านเกิดที่โรมาเนียหลังจากที่วีซ่าของเขาหมดอายุ เขาได้ตัดพ้อว่าเขาจะมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีได้หรือไม่ และโอกาสที่เขาจะสร้างครอบครัวของตัวเองได้จบสิ้นแล้วกับการกระทำผิดครั้งแรกและครั้งเดียว โดยเขาได้รับการอธิบายว่าสิ่งที่เขาทำลงไปเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายและเลวทราม เป็นการกระทำของคนที่มีความผิดปกติทางใจในด้านเพศ พนักงานอัยการแจ้งว่าเหยื่อได้รับการกระทบกระเทือนด้านจิตใจมากจนทำให้เธอกินยาเกินขนาดและนำมีดเข้านอนด้วยหลังจากที่เธอโดนกระทำ ผู้ต้องหายืนยันหนักแน่นกับศาลว่ากิจกรรมทางเพศทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากการร่วมมือร่วมใจระหว่างทั้งสองคนหลังจากที่ทั้งสองคนสบตากันที่ลานจอดรถ เขายังกล่าวอีกว่าเธอเต็มใจที่จะไปกับเขาโดยไม่ได้ต่อต้านขัดขืนอะไร ผู้ร่วมกระบวนการตัดสินกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่มีข้อกังขาใด ๆ เลยเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากที่ได้รับคำตัดสินราวกับว่าเขาคือเหยื่อของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในตอนนี้ความเข้าใจของผู้ต้องหาคือการตัดสินของศาลส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอยู่ต่อของเขา โดยที่เขาไม่ได้คำนึงว่าการกระทำของตัวเองส่งผลต่อเหยื่ออย่างไร

เราเรียนรู้อะไรจากปรากฏการณ์สุดทราม นักเรียน ป.3 “ข่มขืน” ป.1

                “สุดสะเทือนใจเมื่อเด็กหญิงชั้นป.1 ถูกเด็กชายชั้นป.3 ว่าจ้างเด็กป.5 ให้ฉุดมาข่มขืนริมสระน้ำ ซ้ำร้ายเมื่อก่อเหตุพยายามจะจับเด็กหญิงป.1 กดน้ำ เพื่อฆ่าปิดปาก แต่เหยื่อสาวน้อยคนนี้รอดมาได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในจังหวัดบุรีรัมย์” เมื่อเราลองมองไปที่ตัวเด็ก ส่วนใหญ่ในเหตุการณ์เลวร้ายเหล่านี้กว่า 80% ไม่มีพ่อแม่คอยดูแลใกล้ชิด เนื่องจากความจนเป็นสาเหตุให้พ่อแม่จำใจทิ้งลูกไว้กับญาติผู้ใหญ่ในต่างจังหวัด เพื่อให้ตนได้ทำงานหาเงินได้สะดวก แม่บางคนก็ส่งลูกให้กับปู่ย่าตายายเลี้ยงทันทีที่ตัวเองคลอด เด็กจึงต้องอยู่กับผู้ปกครองที่ไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ข้อดีของการส่งลูกให้ญาติผู้ใหญ่เลี้ยงดูก็มีหลายอย่าง เช่น เด็กจะผูกพันกับปู่ย่าตายายมาก และยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมและรากเหง้าของตน แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน เด็กในวัย 0-3 ขวบเป็นช่วงวัยที่เขาจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด และเป็นวัยแห่งการปูพื้นฐานของเด็กเมื่อเติบโตขึ้น ซึ่งหมายความว่าเขาจะซึมซับความทรงจำที่บ่งบอกความเป็นตัวตนตั้งแต่ช่วงวัยนี้ ถ้าเด็กได้คนเลี้ยงดูที่ดี เขาก็จะมีทัศนคติที่ดีและติดตัวไปจนโต กลับกันถ้าเด็กถูกปล่อยปละะละเลย ไม่ใส่ใจ หรือถูกกระทำทารุณ เหล่านี้จะกลายเป็นปมด้อยในใจของเขา ปมด้อยในใจใหญ่ขึ้นเพราะ “ถูกทิ้ง” นอกจากนี้สิ่งที่มักเป็นปมอยู่ในใจเสมอของเด็ก ๆ ที่ถูกส่งไปอยู่กับญาติผู้ใหญ่ในต่างจังหวัด คือการตระหนักว่าตนเองถูกทอดทิ้ง ดังนั้นในใจลึก ๆ จึงเกิดความรู้สึกเรียกร้องและโหยหาความรักอยู่เสมอ การเติมเต็มความรู้สึกถูกทิ้งจึงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการแก้ปัญหาเหล่านั้น ความคิดที่ว่าตนกำลังเป็นที่สนใจ ทำให้เด็กไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ แต่น่าเศร้าเด็กบางคนกลับหลงเชื่อและยอมแลกบางอย่างเพื่อได้รับการใส่ใจ จนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นดังที่ได้ปรากฎอยู่ในหลาย