Tag: ภัยธรรมชาติ

“โลกร้อน” เป็นปัญหาของมวลมนุษยชาติ ชิคาโก ร้อนแท้ ไม่แพ้ไทย

ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่อากาศร้อนมากที่สุดในฤดูร้อน โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่มีค่าความร้อนและอัตราการปล่อยสารพิษสู่ชั้นบรรยากาศเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก สาเหตุหลักที่กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองมลพิษก็มาจากความร้อนที่ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ยิ่งร้อนมากผู้คนก็ยิ่งใช้เครื่องปรับอากาศมาก รวมไปถึงความหนาแน่นของการจราจรและผู้ใช้รถใช้ถนน การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์สู่ชั้นบรรยากาศ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อากาศร้อนขึ้น ไม่ใช่กรุงเทพฯ เท่านั้นที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนขึ้นทุกปี แต่หลาย ๆ ประเทศก็ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเช่นกัน รายงานล่าสุดจากเว็บไซต์ชิคาโก ซัน ไทมส์ ระบุว่าฤดูร้อนปีนี้เป็นปีที่อุณหภูมิสูงที่สุดในรอบ 5 ปีของเมืองชิคาโก โดยอุณหภูมิในบ่ายวันเสาร์ช่วยปลายเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาได้พุ่งสูงถึง 32 องศาเซลเซียส ทำให้ชาวเมืองชิคาโกนั้นหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยาของเมืองชิคาโกยังระบุอีกว่า อุณหภูมิมีโอกาสสูงขึ้นถึง 34 องศาเซลเซียสในอีก 2 วันข้างหน้า “ร้อนจนคนต้องตาย” อากาศร้อนสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายอย่าง โดยเฉพาะอาการเจ็บป่วยอย่างเฉียบพลัน มีสาเหตุมาจากอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น นั่นคือโรคลมแดด (Heat Stroke) มีอันตรายอย่างมาก อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการทำงานผิดปกติของสมอง ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ

การกระทำในอดีต ส่งผลลัพธ์เป็นภัยธรรมชาติที่หนักขึ้นในปัจจุบัน

อาจกลายเป็นเพียงเพียงความทรงจำ หรือภาพอดีตไปในอีกไม่ช้านี้ก็เป็นได้ สำหรับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติที่โด่งดังอย่าง “ลูฟว์” แห่งกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส กับเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา เกิดฝนตกอย่างหนักทำให้น้ำท่วมถนนหนทาง ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า สื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปารีสเกิดฝนตกอย่างหนัก อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องย้อนกลับไปอดีตเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยขณะนี้น้ำได้ท่วมสูงถึง 4-6 เมตร สูงกว่าระดับน้ำปกติ 4-5  เมตร และน้ำท่วมดังกล่าวทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากถนนในเมืองใช้สัญจรไม่ได้แล้ว อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือ ระดับน้ำทำท่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพิพิธภัณฑ์ดังอย่างลูฟว์  ออร์แซ และออรองเจอรี ที่จำเป็นต้องเพิ่มการเฝ้าระวังเป็นพิเศษมากขึ้น หลังจากที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์ฝนยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ลูฟว์อาจกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำแห่งใหม่ก็เป็นได้ จากสถานการณ์ดังกล่าว ภาครัฐมีการอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยกว่า 1,000 คน เพื่อรอสถานการณ์คลี่คลายลง เหตุการณ์น่าจะกลับไปเป็นปกติภายในไม่กี่วัน ผู้สื่อข่าวยังระบุอีกว่าหากรอให้ระดับน้ำลดลงคงต้องให้เวลา เพราะตอนนี้เมืองทางตอนเหนือของประเทศถูกน้ำท่วมไปแล้วเช่นกัน สังเกตว่าปีใหม่นี้มีเหตุการณ์ไม่สู้ดีถาถมเข้าหาหลาย ๆ ประเทศอย่างเนื่องทีเดียว กลับมาที่ประเทศไทยกันบ้าง กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของไทย โดยในหลายภูมิภาคอากาศจะเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา

ความพิโรธจากธรรมชาติ ถึงเวลาชำระบาปสู่มนุษย์โลก

โลกเรานับวันยิ่งเผยอะไรต่อมิอะไรให้ได้เห็นกันชัดเจนขึ้นทุกขณะ ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาควันพิษที่มีค่าอันตรายสูงเกินมาตรฐาน กลายเป็นที่วิภาควิจารณ์กันไปทั่วสารทิศ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ก็ต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์ที่หนักหน่วงเช่นกัน เมื่อวันที่พุธ ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษได้ออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับควันพิษที่กระจายไปทั่วกรุงเทพและปริมณฑล โดยระบุว่า ฝุ่นควันดังกล่าวมีค่าพีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นค่าที่สูงกว่ามาตรฐาน ผู้ที่สูดดมเข้าไปในปริมาณที่มาก มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง ด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สูดดมจะผ่านเข้าไปทางเดินระบบหายใจ จนทำให้เกิดการอักเสบและทำให้เกิดการเปลี่ยนถ่ายลมอากาศไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการได้ ดังนั้นหากต้องออกจากอาคารสถานที่ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันอันตรายดังกล่าวในระดับหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัยของสถาบันการแพทย์ว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุดในทุกปี ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเพิ่มมากขึ้นราวปีละถึง 120,000 คน เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว สำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดอันดับ 1 จาก 132 เมือง เหลือเชื่อจริง ๆ แต่ขณะเดียวกันกรุงเทพก็เป็นเมืองที่รถติดมากที่สุดเป็นอันดับ 1 จาก 390 เมืองเช่นกัน และทำสถิติติดต่อกันสองปีซ้อน คนไทยควรดีใจหรือเสียใจหรือจะเฉย ๆ ดี มาดูเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายของประเทศเพื่อนบ้านเรากันบ้าง ล่าสุดที่ประเทศฟิลิปปินส์ได้อพยพผู้คนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ของภูเขาไฟ “มายอง” ให้ไปอยู่ในรัศมี 9 กิโลเมตรซึ่งถือเป็นจุดที่ปลอดภัยแล้ว เนื่องจากภูเขาไฟมายองเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา