Month: September 2018

หมอผ่าตัดลืมของในท้องคนไข้เหตุสุดวิสัยและความเลินเล่อที่อภัยไม่ได้

                เป็นที่ทราบกันดีว่าการเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็กหรือใหญ่ล้วนมีความเสี่ยงต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนเข้ารับการผ่าตัดคนไข้จะได้รับคำแนะนำจากโรงพยาบาลเรื่องการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่กระบวนการได้แก่ งดอาหารและน้ำตามคำสั่งของแพทย์ งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าเป็นการผ่าตัดใหญ่นั้นต้องสะสางงาน และเตรียมแจ้งลาหยุดกับทางบริษัทเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขัดข้องใด ๆ ระหว่างการพักฟื้น นอกจากนี้ควรพาญาติมาด้วยเมื่อเข้ารับการผ่าตัดโดยเฉพาะการผ่าตัดใหญ่ เหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำส่วนหนึ่งที่คนไข้ควรปฏิบัติตามก่อนเข้าห้องผ่าตัด ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางเหตุการณ์ที่ความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากผู้ป่วยแต่เกิดจากความเลินเล่อของคุณหมอดังเหตุการณ์ต่อไปนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2552  นางสาวสุวารี ฉัตราภิวัฒน์ อายุ 23 ปี เดินทางมาร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข เธอเล่าว่าได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค โดยใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เพราะมีอาการปวดท้อง และไม่สามารถกั้นปัสสาวะได้ แพทย์จึงทำการเอกซเรย์และพบว่ามีสายยางยาวประมาณ 25 เซนติเมตร อยู่ที่บริเวณกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีก้อนนิ่วฝังตัวอยู่ใกล้กับสายยาง โดยสายยางนี้อยู่ในท้องนานกว่า 5 ปีแล้ว นางสาวสุวารีระบุอีกว่าจะเอาผิดกับโรงพยาบาลศรีวิชัย 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รักษาตนเมื่อ 5 ปีที่แล้วอย่างถึงที่สุด เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นางสาวกุลธิดา อรุณมณี อายุ

“เอเวอร์เรสต์” ความฝันสูงสุดของนักปีนเขาบ้างเอาชีวิตไปทิ้งจนกลายเป็นสุสานที่สูงที่สุดในโลก

                เชื่อว่าหลายคนรู้จักชื่อภูเขาที่สูงที่สุดในโลก อย่างภูเขาเอเวอเรสต์ ประเทศเนปาล ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นความฝันอันสูงสุดของนักปีนเขาทุกคนเลยก็ว่าได้ ด้วยความท้าทายทั้งเรื่องความสูง และความถึกทนของร่างกายในขณะอยู่บนที่สูงส่งผลให้นักปีนเขาหลายคนต้องฝึกฝนตนเองทั้งชีวิตเพื่อพิชิตเอเวอร์เรสต์ให้ได้สักครั้ง ดังนั้นจึงมีคำแนะนำและคำเตือนของผู้ที่เคยพิชิตเอเวอร์เรสต์ออกมาอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเรื่องการตระเตรียมร่างกายให้พร้อมต่อระดับความสูงที่มีออกซิเจนต่ำ และคำแนะนำของผู้พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ส่วนใหญ่ก็คือ ต้องพิชิตยอดเขาสูง ๆ ในโลกให้ได้ 3 – 4 ลูกก่อนแล้วค่อยมาพิชิตเอเวอร์เรสต์ เนื่องจากความยากลำบากของภูมิประเทศ และความหนาวเย็นของภูมิอากาศอาจทำให้ร่างกายช็อกได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่ใฝ่ฝันจะพิชิตเอเวอร์เรสต์จึงควรได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจังเสียก่อน ใช่ว่าการปีนภูเขาเอเวอร์เรสต์แห่งนี้จะมีแต่ผู้ประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะนอกจากปัจจัยทางร่างกายต้องพร้อมแล้วยังมีปัจจัยทางสภาพภูมิอากาศ หลายครั้งที่มีรายงานข่าวว่าเกิดพายุหิมะถล่มในหุบเขาเอเวอร์เรสต์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อนักปีนเขาและชาวบ้านโดยรอบ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด ในประเทศเนปาลที่คร่าชีวิตผู้คนกว่า 10,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้งนักท่องเที่ยวผู้ต้องการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์อีกด้วย โดยรายงานระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตที่ถูกพบบริเวณหุบเขามีจำนวนกว่า 200 ศพ และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกเรื่อย ๆ เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูกาลของการปีนเขาทำให้มีนักปีนเขามากมายจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันที่นี่ แต่น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นเสียก่อน การสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นได้มีชาวไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็คือหมออีฟ มาริสา จิรวงษ์

เซลฟี่มรณะ อุบัติเหตุยอดฮิตบนความประมาทหวังเก็บภาพประทับใจแต่ทำคนถ่ายตายสยอง

การถ่ายรูปตัวเองหรือที่เรียกว่าเซลฟี่นั้นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตั้งแต่ยุคที่เริ่มใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งกล้องของสมาร์ทโฟนในยุคแรกเริ่มนั้นไม่สามารถใช้กล้องหน้าได้ แต่เมื่อบริษัทโทรศัพท์ได้ทำการพัฒนาให้สมาร์ทโฟนสามารถมีโหมดปรับเปลี่ยนกล้องหลังและกล้องหน้า การเซลฟี่จึงเข้าสู่ยุครุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนใหญ่การเซลฟี่นั้นไม่ได้ทำเพื่อถ่ายรูปเก็บภาพประทับใจเท่านั้น แต่คนใช้การถ่ายรูปแบบเซลฟี่เพื่อเช็คความบกพร่องบนใบหน้าของตัวเอง และรู้ว่ามุมไหนที่ตนถ่ายแล้วดูดี ซึ่งหลายบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ได้นำแนวความคิดนี้มาพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อเสริมความสวยหล่อของผู้ที่ชอบถ่ายเซลฟี่ อีกทั้งยังเกิดธุรกิจการแพทย์ทางด้านศัลยกรรมใบหน้าให้คนไข้ได้มีใบหน้าที่ได้รูป และเป็นที่พึงพอใจอีกด้วย วันที่ 21 มิถุนายนของทุกปีถูกระบุให้เป็นวันเซลฟี่นานาชาติ เนื่องจากวันเดียวกันนี้ในปี 2014 พจนานุกรมออกซ์ฟอร์ดได้ระบุให้คำว่าเซลฟี่เป็นคำหนึ่งในพจนานุกรม ซึ่งหมายความว่าการถ่ายรูปตัวเองด้วยตัวเอง ดังนั้นทุก ๆ วันนี้ของปีผู้คนจะพากันถ่ายรูปเซลฟี่ในลักษณะต่าง ๆ เพื่อสร้างความทรงจำและความประทับใจเก็บเป็นที่ระลึก แต่ใช่ว่าการถ่ายรูปเซลฟี่นั้นจะสร้างความประทับใจเสมอไป โดยเฉพาะคนที่ชอบการเซลฟี่ในสถานที่แปลก ๆ หรือในท่าทางที่ผาดโผนก็สามารถทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ระทึกโดยหนุ่มอินเดียวัย 24 ปีพยายามไปยืนที่น้ำตกซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันราว ๆ 16 เมตร ในเมืองโกราภัทร รัฐโอริสา ประเทศอินเดีย ด้วยกระแสน้ำที่ไหลลงหน้าผาอยู่ตลอดเวลาทำให้เขาทรงตัวไม่อยู่และลื่นตกหน้าผาไปในที่สุดเป็นที่น่าตกใจของบรรดาเพื่อน ๆ และนักท่องเที่ยวที่พบเห็น โดยเหตุการณ์นี้ได้ถูกบันทึกเป็นวิดีโอคลิปสั้น ๆ จากเพื่อนของเขาและถูกเผยแพร่ในภายหลังเพื่อเป็นอุทาหรณ์ต่อคนที่ชอบการเซลฟี่ ตามรายงานข่าวระบุว่าชายคนดังกล่าวนั้นไม่ได้เสียชีวิตแต่มีอาการโคม่าอยู่ในห้องไอซียู อีกหนึ่งเหตุการณ์สลดเกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษโดยสาววัย 20 ปี ชาวนิวซีแลนด์ผู้รักการท่องเที่ยว และหลงใหลการเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ ระหว่างทริปท่องเที่ยวในกรุงลอนดอนเธอได้ปีนขึ้นไปบนหน้าต่างของโรงแรมเพื่อหวังจะได้รูปเซลฟี่ของตัวเธอกับวิวในเมืองใหญ่ แต่เรื่องไม่คาดฝันกลับเกิดขึ้นกับสาวน้อยผู้นี้โดยเธอพลัดตกจากหน้าต่างโรงแรมลงมาสู่พื้นด้วยอาการสาหัส และเสียชีวิตในภายหลังซึ่งเป็นที่เศร้าเสียใจต่อเพื่อนและครอบครัวของเธออย่างยิ่ง

อเมริกาอ่วม มหันตภัยจากคลื่นความร้อนทำคน สัตว์ สิ่งของเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

                เมื่อพูดถึงฤดูร้อนหลายคนอาจรู้สึกไม่ชอบอากาศอบอ้าวทำให้เหงื่อออกเหนียวเหนอะหนะไม่สบายตัว และเป็นที่น่ารำคาญใจอย่างยิ่ง แต่สำหรับในประเทศที่ต้องเผชิญกับอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีทำให้ฤดูร้อนกลายเป็นเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนจะได้ออกจากบ้านมารับแสงแดดอุ่น ๆ ให้ผิวได้รับวิตามินดีบ้าง แต่ถึงอย่างไรฤดูร้อนก็ไม่ได้เป็นฤดูแห่งความสุขเสมอไป เนื่องจากในบางช่วงที่ร้อนมาก ๆ ประชาชนไม่สามารถออกจากบ้านได้เลย เพราะความร้อนในอากาศที่พุ่งสูงขึ้นอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายแบบเฉียบพลันได้ โดยเฉพาะฤดูร้อนในประเทศอเมริกาซึ่งพื้นที่ที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลทรายมักจะได้รับผลกระทบจากลมร้อนส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2017 สำนักข่าวต่างประเทศในเมืองลอสแองเจลลิสได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน ที่เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย 2 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสูงอายุวัย 72 และ 87 ปี จากอุณหภูมิที่พุ่งสูงถึง 46 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายมีอุณหภูมิลดลง อีกหนึ่งเหตุการณ์เหลือเชื่อเกิดขึ้นในรัฐอริโซน่าทางตะวันตก และทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา อุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นราว ๆ 42 – 49